Everyone can be colorblind

ตาบอดสีโรคที่ใครๆก็เป็นได้

เกริ่นเรื่องกันซักหน่อย  

ตัวอย่างการมองโลกเป็นสีเทา
           หลายๆท่านน่าจะเคยมีความเข้าใจที่ผิดเกี่ยวกับโรคตาบอดสีกันมาบ้าง ในบทความแรกนั้นเราก็ได้ให้ความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องที่ว่า โลกสีเทาของคนตาบอดสี...จริงหรอ? ซึ่งก็ได้ข้อสรุปมาว่า ตาบอดสีที่โลกเป็นสีเทา สีขาวดำนั้น มีอยู่จริง แต่มีน้อยมากๆ น้อยสุดๆ อีกทั้งตาบอดสียังมีหลายประเภท แต่นอกจากความเข้าใจผิดในเรื่องนี้ ก็ยังมีความเข้าใจผิดอีกอย่างเกี่ยวกับโรคตาบอดสี นั้นก็คือ ตาบอดสีนั้น ส่งทอดผ่านได้เฉพาะทางกรรมพันธุ์ แต่หารู้ไม่ ว่าการเป็นตาบอดสีนั้น ไม่ว่าใครก็สามารถที่จะเป็นได้

สาเหตุ

        โรคตาบอดสีนั้น มี สองสาเหตุหลักใหญ่ๆด้วยกัน โดยแบ่งเป็นดังนี้
  1. เป็นโดยกำเนิด หรือ การถ่ายทอดทางกรรมพันธุ์ ซึ่งสาเหตุนี้ ก็คือสาเหตุหลัก ที่คนตาบอดสีส่วนใหญ่ทั่วโลก เป็นกัน 
  2. เป็นหลักจากเป็นโรคอื่นๆมาก่อน สาเหตุนี้พบได้น้อยกว่าสาเหตุแรก แต่อาการร้ายแรงกว่า เพราะโรคบางโรค ส่งผลต่อการมองเห็นและการมองเห็นสี ทำให้บางคนที่เป็นตาบอดสีจากสาเหตุนี้จะมีอาการอื่นแทรกซ้อนด้วย และอาการก็จะแย่ลงเรื่อยๆถ้าไม่ได้รับการรักษา ไม่เหมือนตาบอดสีแต่กำเนิด ที่อาการจะคงที่ 

แบ่งประเภทของตาบอดสีแต่กำเนิด 

 

       ตาบอดสีแต่กำเนิดนั้นสามารถแบ่งแยกกลุ่มออกไป 3 กลุ่มด้วยกัน
  1. กลุ่มที่เห็นสีเดียว คือ กลุ่มผู้ป่วยที่มีเพียงเซลล์รูปแท่ง แต่ ไม่มีเซลล์รูปกรวย บางรายก็มีเซลล์รูปกรวยชนิดเดียว ซึ่ง ผู้ป่วยกลุ่มนี้จะมองเห็นภาพเป็นสีขาวดำ สายตามัวจนมองไม่เห็น ตาสู้แสงไม่ได้ ลูกตาจะกลอกกลิ้งไปมา โดยแพทย์จะเน้นรักษาเพื่อให้สามารถมองเห็นได้ แต่การทำให้เห็นสีนั้น แพทย์ได้ให้ความเห็นแล้วว่าไม่สามารถรักษาให้เห็นสีได้
  2. กลุ่มที่มีเซลล์รูปกรวย 2 ชนิด เซลล์รูปกรวยสีแดงขาด เรียกว่า ตาบอดสีแดง เซลล์รูปกรวยสีเขียวขาด เรียก ตาบอดสีเขียว เซลล์รูปกรวยสีน้ำเงินขาด เรียกตาบอดสีน้ำเงิน ซึ่งตาบอดสีน้ำเงินนั้น พบได้ยากมาก 
  3. กลุ่มที่มีเซลล์ครบทั้ง 3 ชนิด แต่มีอย่างใดอย่างหนึ่งพร่อง/น้อยกว่าปกติ กลุ่มนี้พบได้ง่ายที่สุด เมื่อมีเซลล์รูปกรวยสีแดงน้อย เรียกว่า พร่องสีแดง เมื่อมีเซลล์รูปกรวยสีเขียวน้อย เรียกว่า พร่องสีเขียว เมื่อมีพร่องสีน้ำเงินน้อยเรียกพร่องสีน้ำเงิน  

ตัวอย่าง การมองเห็นสีของคนตาบอดสี

สายตาปกติ


ตาบอดสีแดง

อาการของผู้ตาบอดสีแดง คือ จะมองเห็นสีแดงอ่อนลงจนกลายเป็นสีเหลือง มองเห็นโทนสีเขียวได้ยาก 

สายตาปกติ


ตาบอดสีน้ำเงิน

อาการของผู้ถ้าบอกสีน้ำเงิน คือ จะมองเห็นสีโทนชมพูและสีโทนฟ้า โทนสีจะออกแนวสีพาสเทล สีเพี้ยนที่สุดในทุกกลุ่มสี






สายตาปกติ

ตาบอดสีเขียว

อาการของผู้ตาบอดสีเขียว คือ จะมองเห็นสีอ่อนลง โดยเฉพาะสีเขียวและสีแดง

 โรคที่ส่งผลให้เกิดโรคตาบอดสี

      การเป็นตาบอดสีหลังจากเป็นโรคอื่นนั้น ค่อนข้างจะส่งผลร้ายแรงต่อการเห็นสี โดยมันอาจจะทำลายกรวยสีทั้งสามสี ทำให้มองไม่เห็นสีเลย นอกจากนี้ยังทำให้การมองเห็นแย่ลงไปด้วย อาการจะทรุดลงเรื่อยๆ ต้องได้รับการรักษาจากแพทย์ โดยแพทย์จะรักษาที่โรคต้นเหตุ
      โรคที่ส่งผลให้เป็นโรคตาบอดสีนั้นก็เช่น โรคเบาหวานขึ้นตา โรคพาร์กินสัน โรคปลอกประสาทเสื่อมแข็ง
       สารเคมีที่ส่งผลต่อการเห็นสี เช่น คาร์บอนไดซัลไฟด์ และ สไตรีน

รักษาได้ไหม

     โรคตาบอดสีนั้น รักษาไม่ได้ เพราะ กรวยสีนั้น ไม่สามารถสร้างทดแทนได้ แต่จะมีการใช้แว่นตา หรือ คอนเทคเลนส์ที่ช่วยในการกรองแสง ซึ่งตัวอย่างของแว่นตาที่ดังๆ ก็เช่น Enchroma ซึ่งจะช่วยให้ผู้ป่วยตาบอดสีสามารถมองเห็นสีได้ แต่ก็ไม่ได้มองได้เท่าคนปกติ

วิธีตรวจสอบโรค

    วิธีตรวจสอบโรคาบอดสีโดยแพทย์นั้น มีอยู่สองวิธี
  1. ตรวจสอบด้วยกระดาษ อิชิฮะระ โดยจะเป็นแผ่นกระดาษที่ให้เราดูแล้วบอกว่าเห็นเลขอะไรซึ่งวิธีนี้สามารถคัดกรองได้เร็ว แต่ไม่ละเอียด บอกความรุนแรงของอาการที่เป็นไม่ได้(อยากตรวจว่าตัวเองโรคตาบอดสีหรือเปล่า คลิ๊ก)
  2. ตรวจสอบด้วยวิธีการเรียงเฉดสี แพทย์จะให้ผู้ทดสอบเรียงเฉดสี โดยให้เรียงเฉดสีที่เหมือนกันให้อยู่ใกล้กัน วิธีนี้ใช้เวลา แต่จะสามารถระบุุถึงความรุนแรงและประเภทที่เป็นโรคตาบอดสีได้


ขอขอบคุณ
สุธกร ศรีชานนท์.สัมภาษณ์, 9 พฤศจิกายน 2560.
ปาจิรา พลเตชา. แพทย์หญิง. สัมภาษณ์, 11 พฤศจิกายน2560.

สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์
colorblindnosee โดย https://colorblindnosee.blogspot.com/ อนุญาตให้ใช้ได้ตาม สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกัน 4.0 International.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น